วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ประวัติความเป็นมาเครือข่ายที่ดินจังหวัดเชียงราย


    เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่าที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยพื้นฐานหลักในการดำรงชีวิตของเกษตรกรรายย่อย จากสภาพการณ์ในปัจจุบันพบว่า ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรมลง และเกิดการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติรุนแรงขึ้น เช่น การบุกรุกป่าเพื่อที่ดินทำกิน   การแย่งการจัดการแหล่งน้ำธรรมชาติระหว่างชุมชนกับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รัฐได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา ตลอดมาองค์กรภาคประชาชนเองได้ใช้ความพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินและการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาโดยตลอด โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและงานวิชาการสมัยใหม่ในการฟื้นฟูและรักษา แต่ก็ยังไม่สามารถยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
          ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนและองค์กรภาคเอกชน ในการสร้างความเข้มแข้งของชุมชนในการจัดการตนเองเกี่ยวกับความเป็นอยู่ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การปกครองและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขปัญหาในด้านต่าง     และได้มีคำสั่งจากคณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ที่ 4/2550 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสนับสนุนการฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควัน รวมถึงการจัดการที่ดินและระบบการเกษตร การจัดการลุ่มน้ำ การจัดการป่าชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนท้องที่จังหวัดเชียงราย ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2550 โดยรองนายกรัฐมนตรี นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม)
           ในขณะเดียวกัน เกษตรกรในจังหวัดเชียงรายส่วนใหญ่ยังไม่มีที่ดินทำกิน มีที่ดินทำกินแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เนื่องจากองค์กรของรัฐประกาศเขตประสงวนแห่งชาติ ประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ และพื้นที่อื่นๆ ทับที่ดินทำกินของเกษตรกร จนนำไปสู่ความขัดแย้งรวมถึงปัญหาความมั่นใจในการครอบครองพื้นที่และการประกอบสัมมาอาชีพ    เช่น พื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยในเขตป่า เช่น บ้านรักแผ่นดิน ต.ตับเต่า อ.เทิง บ้านห้วยหาน ต.ปอ อ.เวียงแก่น บ้านแม่ยางมิ้น ต.ศรีถ้อย อ.แม่สรวย    พื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานหรือเตรียมประกาศเขตอุทยาน เช่น บ้านห้วยหินลาด  ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า บ้านห้วยลุหลวง บ้านแคววัวดำ บ้านผามูบ ต.แม่ยาว อ.เมือง    พื้นที่สาธารณะประโยชน์ เช่น บ้านสมานมิตร ต.ดอนศิลา เป็นต้น
       จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเกษตรกรยังขาดกระบวนการในการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบและการรับรู้ข้อมูลข่าวสารในระดับนโยบายต่าง จึงทำให้การแก้ไขปัญหาในด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์เท่าที่ควร   ซึ่งบทบาทดังกล่าว   จึงจำเป็นต้องมีคณะทำงานติดตามนโยบายรัฐและจัดเก็บข้อมูลที่ชัดเจนเพื่อสนับสนุน กระบวนการการแก้ไขปัญหาที่ดินและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยองค์กรภาคประชาชนในพื้นที่เขตจังหวัดเชียงราย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น