'ผู้ตรวจการแผ่นดิน'ชี้ที่ดินไทย 100 ล้านไร่ อยู่ในมือต่างชาติ เผยถือครองผ่าน"คู่สมรส - นอมินี" ชี้หาก เป็นแบบนี้คนรุ่นหลัง'ไร้แผ่นดิน'
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมาธิการ เศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา จัดการสัมมนาเรื่อง นิติกรรมอำพราง : ต่างชาติกับการถือครองที่ดิน โดยนายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ปัญหาความมั่นคงของประเทศไทยมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ 1.ความมั่นคงทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติดเพราะกำลังบั่นทอนบุคคลากรของประเทศในระยะยาว 2.ที่ดินโดยมีปัญหาว่าเราส่งต่อให้รุ่นลูกหลานอย่างไรเนื่องจากตอนนี้ที่ดินกว่า 1 ใน3 ของประเทศไทยหรือคิดเป็นประมาณ 100 ล้านไร่อยู่ในมือของต่างชาติ แสดงให้เห็นว่าเป็นการแย่งดินแดนโดยใช้ระบบเศรษฐกิจและช่องโหว่ของกฎหมาย
นายศรีราชาระบุต่อว่าทั้งนี้ปั
ญหานี้มีมานานแล้วตั้งแต่อดี
ตเพราะเราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิ
จทำให้เกิดการถือครองที่ดิ
นของชาวต่างชาติ ช่วงปี 2540 ได้เปิดช่องให้ชาวต่างชาติมีเงิ
นเพียง 1 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาเข้ามาถื
อครองที่ดินได้เป็นกรณีพิเศษ ทำให้ ณ วันนี้มีที่ดิน 1 ใน 3 ของประเทศถูกถือครองอำพรางโดยต่
างด้าว คิดเป็นประมาณ 100 ล้านไร่ ตัวเลขนี้มาจากการทำงานวิจั
ยของสถาบันการศึกษา ที่น่ากลัวที่สุด คือ ที่ดินแทบชายทะเล เช่น หาดบ้านเพ จ.ระยอง พบว่าเป็นของต่างชาติกว่า 90 % เช่นเดียวกับ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พัทยา จ.ชลบุรี น่าอยู่ในมือต่างชาติ 30% ส่วนเกาะภูเก็ต เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ต้องพูดถึง
นายศรีราชา กล่าวต่อว่า การถือครองที่ดินของต่างชาติเข้ามาในหลายรูปแบบ เช่น สมรสกับคนไทย หรือตั้งบริษัทไทยและไปแปลงภาพในภายหลังแม้ว่าในกฎหมายจะกำหนดให้ต่างด้าวถือหุ้นได้ไม่เกิน 49 % แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่าจำนวนหุ้นอีก 51%ที่เหลือกลายเป็นถือครองในระบบนอมินีแทน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจะต้องทบทวนการจำกัดถือครองที่ดิน และผลักดันภาษีที่ดินให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดิน แต่เรื่องนี้เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา เชื่อว่าไปไม่รอดแน่เพราะคนรวยในระบอบนี้ไม่มีใครยอม รวมทั้งต้องสร้างเครือข่ายร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และต้องมีสินบนนำจับเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
นอกจากนี้การได้เห็นสภาพแบบนี้ เมืองไทยจะไม่มีอะไรเหลือ คนรุ่นหลังจะไม่มีที่อยู่ และต้องจับตาแนวคิดในการเอาไทยเป็นครัวของโลก ซึ่งเป็นช่องทางให้เกิดการถือครองที่ดินของต่างชาติ ตนจับตามาตั้งแต่ออสเตรเลียพยายามเอาผลไม้ของเราไปปลูกแต่ทำในประเทศตัวเองไม่ได้เลยมาขอเช่าที่ดินในไทยแทน ต่อไปจะมีนักการเมืองบางท่านสนับสนุนตะวันออกกลางข้าวหอมมะลิจะตรีตราเป็นภาษาตะวันออกกลางทั้งหมด หากไม่สำเหนียกในการคุ้มครองสิทธิชาวนาไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากกความไม่สามารถของฝ่ายบริหารของประเทศที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ปลูกพื้นไร่บ้านเราบนที่ดินเราแต่ผลผลิตส่งกลับประเทศของเขาและคนไทยจะเป็นเพียงแรงงานเท่านั้น
ด้านน.ส.ปิยะนุช โปตะวณิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า ปัญหานี้จะส่งผลน่ากลัวอย่างมากในช่วงปี 2558 ซึ่งจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนและเปิดเศรษฐกิจเสรีเพื่อกระตุ้นการลงทุนในภูมิภาค เกรงว่าจะกลายเป็นช่องว่างให้เกิดกระบวนการนิติกรรมอำพรางของต่างชาติเพื่อเข้ามาถือครองที่ดินในไทย โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ อยากให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจับตามองเป็นพิเศษ เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางด้านการเงินจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องการลงทุนในด้านอื่นๆ เพื่อทำประโยชน์และสร้างกำไรทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้สิงคโปร์มีเทคนิคสูงมากกยากต่อการตามให้ทัน ปัญหาตอนนี้ คือ ทำอย่างไรให้หน่วยงานตรวจสอบของเรามีความเข้มแข็งและประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปได้หรือไม่กับการกำหนดข้อห้ามออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร การบูรณาการข้อมูล การเสนอกฎหมายการกระทำความผิดของตัวแทนกระทำอำพราง รวมไปถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งด้วย หรือการเนรเทศชาวต่างชาติที่กระทำความผิดในส่วนนี้
ขณะที่นายสุจิต จงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน กรมที่ดิน กล่าวว่า คนต่างด้าวมีศักยภาพในทางการเงินสูง จึงขวนขวายให้ได้มาซึ่งที่ดินจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินตรากลับประเทศ ทั้งนี้การพิสูจน์การถือครองที่ดินของต่างชาติทำได้ยาก เพราะถ้าผู้ที่เข้ามาจดทะเบียนได้ยื่นเอกสารและมีคุณสมบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่ใช่เป็นคนต่างด้าว เป็นทรัพย์สินส่วนตัว เป็นต้น ก็สามารถจดทะเบียนได้ และยอมรับว่าตอนนี้มีหลายรูปแบบในการเข้ามาถือครอง เช่น การจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ แต่กระบวนการพิสูจน์ว่าทรัพย์สินที่นำมาซื้อที่ดินเป็นสินสมรสหรือส่วนตัว ประกอบกับกฎหมายปัจจุบันได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่สมรสแล้วสามารถใช้คำนำหน้านามว่านางสาวได้ยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปอีกเพราะตรวจสอบได้ยากมากว่าเป็นนอมีนีหรือไม่ นอกจากนี้ ในทางปฏิบัติแต่ละวันมีผู้เข้ามาจดทะเบียนกับกรมที่ดินเยอะมาก ดังนั้น การตรวจสอบจึงมีข้อจำกัด
ด้านพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กล่าวว่า ป.ป.ง.เป็นหน่วยงานที่ต้องรับรายงานการทำธุรกรรมการซื้อขายที่ดินด้วยเงินสดเกิน 2 ล้านบาท แต่ตอนนี้พบว่ามีการเลี่ยงกฎหมายด้วยการทำขนาดของธุรกรรมให้เล็กลงโดยไม่ให้เกิน 2 ล้านบาทเพื่อไม่ต้องรายงานป.ป.ง. เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหาจำเป็นอย่างยิ่งต้องได้รับความร่วมมือจากกรมที่ดิน
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์