
พี มูฟหอบปัญหาชาวบ้าน ที่ดิน โฉนดชุมชน เขื่อนปากมูล คนไร้บ้าน ชาวเล โรงไฟฟ้า เกษตรพันธะสัญญา ทวงความคืบหน้าแก้ปัญหาจากรัฐบาล การประชุมเหลว “วรวัจน์” ปัดให้ไปเริ่มเก็บข้อมูลใหม่
วันที่ 2 มี.ค.55 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการ
ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ระหว่างรัฐบาล โดยมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายชาวบ้านในนามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ซึ่งได้มาติดตามความคืบหน้าและเร่งให้รัฐบาลการแก้ปัญหาในประเด็นต่างๆ อาทิ เขตปฏิรูปที่ดิน(สปก.)จ.สุราษฎร์ธานี ของสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) กรณีคนไร้บ้าน ที่อยู่อาศัยและสินเชื่อคนจนเมือง ฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล เขื่อนปากมูล เกษตรพันธะสัญญาและปัญหาเหมืองแร่ชีวมวล โรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด โดยที่ประชุมหยิบยกกรณีที่ดิน สปก.สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องเร่งด่วนในการพิจารณา เนื่องจากมีการข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ถือครองสิทธิโฉนดชุมชน
นายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการพีมูฟ กล่าวว่าไม่ว่ากรณีที่ดิน สปก.สุราษฎร์ธานี และอื่นๆ รัฐบาลควรยุติการดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญากับชาวบ้านก่อน เพราะถือว่าอยู่ระหว่างกระบวนการแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ในบางพื้นที่ได้ข้อยุติในการแก้ปัญหากับรัฐบาลแล้ว แต่ในทางปฏิบัติชาวบ้านกลับยังถูกดำเนินคดี ถูกลอบทำร้ายจากกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ เช่น พื้นที่โฉนดชุมชน อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้ข้อยุติการแก้ปัญหาแล้ว หรือพื้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ เช่น บ้านเก้าบาตร อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ บ้านบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
เครือข่ายประชาชนจึงเรียกร้องให้สำนักอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือเวียนยังหน่วยงานใต้บังคับบัญชาในสังกัดให้ยุติและชะลอการดำเนิน คดีกับชาวบ้าน พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน
ด้าน
นายวรวัจน์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะที่ดินทำกินที่ชาวบ้านเรียกร้องให้รัฐจัดสรรพื้นที่อย่างยุติธรรมใน รูปแบบต่างๆ รวมถึงโฉนดชุมชน แต่เมื่อตั้งกฎเกณฑ์ดำเนินการร่วมกันแล้ว ประชาชนต้องไม่บุกรุกป่าเพื่อเป็นแหล่งทำกินเพิ่ม หากยังมีการบุกรุกรัฐบาลจะไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ อีก ส่วนกรณีที่ดิน สปก.และการแก้ปัญหาที่ดินนั้นตนจะให้มีการตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ปัญหาและทำ แผนที่ถาวร พร้อมแต่งตั้งอนุกรรมการพิจารณาแต่ละกรณีก่อน จึงจะสามารถพิจารณาต่อได้ ซึ่งคงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน
“ตอนนี้ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนภาคใต้ครั้งเป็นรัฐบาลยังทำไม่ได้เลย ผมเป็น ส.ส.ภาคเหนือจะทำได้อย่างไร”
ทั้งนี้
นายไมตรี จงไกรจักร กรรมการพีมูฟ เปิดเผยหลังการประชุมว่าไม่พอใจการทำหน้าที่ประธานประชุมของนายวรวัจน์ ซึ่งไม่รับฟังปัญหาประชาชน ได้แต่อ้างว่ายังไม่สามารถสรุปแนวทางแก้ปัญหาได้ เพราะยังไม่ได้รับรายงานข้อมูล นอกจากนี้ยังแสดงท่าทีสั่งการแบบซีอีโอแก่ข้าราชการและประชาชน
“เครือข่ายชาวบ้าน คงรอนโยบายการแก้ปัญหาที่นายวรวัจน์ต้องการเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยไม่สนใจข้อมูลเดิมที่เคยมีมาไม่ได้ เพราะขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่กำลังจะถูกไล่รื้อและถูกดำเนินคดี จึงเรียกร้องให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ปัญหาชุดนี้ ลงมาคุยกับเครือข่ายเองในการประชุมครั้งต่อไป” นายไมตรีกล่าว
ทั้งนี้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายปัญหาชาวบ้านในด้านต่างๆ ประกอบด้วยเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย เครือข่ายสลัม 4 ภาค สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ ชมรมประมงพื้นบ้านจ.ตรัง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้พิบูลมังสาหาร และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบโรงไฟฟ้าชีวมวลและคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อุบลราชธานี
ข้อมูลจาก http://www.isranews.org ศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิสรา