ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาใหญ่เรื่องหนึ่งของจังหวัดเชียงราย หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ในประเทศ ทิศทางการเปิดการค้าเสรีไทยจีน ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เกิดโครงการพัฒนาถนน สาย R3A และท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ ๒ และสะพานข้ามแม่น้ำโขง อำเภอเชียงของ และเตรียมสร้างนิคมอุตสาหกรรม ในอำเภอเชียงของ นั้น ปรากฎการณ์ดังกล่าว ทำให้ที่ดินมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการกว้านซื้อที่ดินเพื่อหนีน้ำท่วม ไว้เกร็งกำไรของนายทุน และเตรียมพัฒนาเป็นรีสอร์ท และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยที่ดินนั้นมีทั้งเอกสารสิทธิ์ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ส่งผลกระทบให้ชุมชนอย่างหนัก หนำซ้ำชาวบ้านยังถูฏแจ้งความดำเนินคดีกับกับเกษตร กลายเป็นปัญหาสังคมและปัญหาความเหลื่อมล้ำอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่เข้าไปทำกินในเขตป่ายังต้องถูกดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายในข้อหาทำลายทรัพยากรเป็นจำนวนสูงถึงไร่ละ 160,000 บาทต่อไร่ต่อปี จนเป็นประเด็นถกเถียงอยู่ในเวลานี้ถึงความไม่เป็นธรรม
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย ได้มีกระบวนการทำงานและกำหนดแนวทางต่อการแก้ไขปัญหาที่ดินและเข้าร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย รวมถึง ขบวนประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม : Pmove จนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกันชุมชนและสภาองค์กรชุมชนตำบล ได้มีการเชื่อมโยงและพัฒนาพื้นที่รูปธรรมและพัฒนาระบบข้อมูลไปพร้อมกับการผลักดันนโยบายสู่รัฐบาลให้ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่งและมีเพียง ๕ หมู่บ้าน ที่สามารถพัฒนาระบบข้อมูลและขอจัดโฉนดชุมชนตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชนได้ ส่วนหมู่บ้านอื่น ๆ ยังมีข้อติดขัดเรื่องการจัดทำข้อมูลแผนที่ GIS ซึ่งมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูงมาก และเป็นข้อมูลสำคัญที่ คณะกรรมการประสานงานว่าด้วยการจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.) ใช้ประกอบในการพิจารณาให้ความเห็นชอบ
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย จึงจัดฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะคณะทำงานระดับชุมชน/ตำบล ให้สามารถจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตหมู่บ้านและข้อมูลรายแปลงของสมาชิกในชุมชน ตลอดจนฐานข้อมูลสู่ตำบลจัดการตนเอง จังหวัดจัดการตนเองต่อไป
วัตถุประสงค์การจัดกิจกรรม เพื่อพัฒนาคณะทำงานในการเรียนรู้ การจับ GPS ได้
เพื่อให้คณะทำงานชุมชน/ตำบล สามารถจัดทำข้อมูลขอบเขตชุมชนและข้อมูลรายแปลง ในรูปแบบ GIS เบื้องต้นขึ้น ในวันที่ ๒๐-๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ มูลนิธิพัฒนาชุมชนในเขตภูเขา มีผู้เข้าร่วมฝึกอบรมจำนวน ๑๔ คน จาก ๘ ตำบลที่มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่ดินโดยองค์กรชุมชนเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน จังหวัดาเชียงราย ขอขอบคุณทีมวิทยากรและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนพัฒนาศักยภาพองค์กรชุมชนตลอดมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น